หลักรัก ตอนที่ 4 - พระอาจารย์ชยสาโร


หลักรัก ตอนที่ 4

เคยสังเกตไหมว่าคนจำนวนมากรักแล้วทุกข์ เพราะเชื่อว่ารักแล้วจะไม่ทุกข์ ขอขยายความหน่อย ว่า ใครมีทุกข์ (อย่างน้อยที่สุดในลักษณะว่ารู้สึกว่า ชีวิตไม่พอ ไม่สมบูรณ์ ไม่มีแก่นสาร หรือขาดอะไรสักอย่าง) เชื่อและหวังว่า ถ้าเขารักใครสักคนและคน นั้นรักเขา ความทุกข์ในชีวิตจะดับไป จะมีความสุข ถาวร ผลก็คือ ถ้าเขาได้สมปรารถนาในความรักแล้ว ปรากฏว่าเมื่อความตื่นเต้นในเบื้องต้นของความรัก อ่อนลงไปแล้ว ความทุกข์ในชีวิตคงยังมีอยู่

คนที่ตั้งความหวังไว้สูงมักจะเศร้าหรือน้อยใจ ว่ามันไม่ยุติธรรม ถูกหลอก เราน่าจะมีความสุขมากกว่านี้ โทษแฟนก็มี การมีที่รักและการเป็นที่รักของคนที่รักเราคือความรู้สึกที่อบอุ่นอยู่ก็จริง แต่ความทุกข์จะดับไปด้วยการดับอวิชชาเท่านั้น

ทุกข์ดับเพราะอวิชชาดับ เพราะตัณหาดับ ไม่ใช่เพราะฉันรักเธอและเธอรักฉัน

การหวังความดับทุกข์จากความรัก คือการตั้ง ต้นไว้ผิด และย่อมมีความผิดหวังเป็นผล แต่ที่ควร สังเกตก็คือ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ความบกพร่องของ

ความรักเท่านั้น

จุดสำคัญคือความไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจชีวิตของตัวเองและของคู่รัก เราอดไม่ได้ที่จะหวังจากความรัก สิ่งที่ความรักให้เราไม่ได้ เพราะไม่รู้เท่าทันตัวเอง ไม่รู้เท่าทันความรักก็เลยมีปัญหา

ละคร หนังสือ เพลง หลายสิ่งหลายอย่างชวนให้เราเข้าใจ ว่าความรักดับทุกข์ได้ แต่ชีวิตของเราแต่ละคนฟ้อง กลับมาว่า ไม่ใช่

เมื่อผู้รัก ผู้เป็นที่รัก และตัวความรัก เป็น สังขารคือทนอยู่ในสภาพเดิมไปเรื่อยๆ ไม่ได้ คนเรา ต้องเจอความพลัดพรากเป็นธรรมดา ไม่วันใดก็วัน หนึ่งเราจะต้องพลัดพรากจากคนที่เรารักทุกคนอย่างแน่นอน

ความตายเป็นเรื่องธรรมดาของสัตว์ทั้งหลายในโลกไม่มียกเว้น สำหรับผู้ที่ไม่เคยให้เวลากับการพิจารณาธรรมชาติของชีวิต ความทุกข์ที่เกิดขึ้นจากการพลัดพรากนั้น มักจะเป็นไปตามอัตราความผูกพันที่มีอยู่

รักมากก็ทุกข์มาก รักน้อยก็ทุกข์น้อย บางทียังไม่ตายจากกันความเจ็บไข้ได้ป่วยอาจทำให้รู้สึกขาดจากกันไปได้ เช่น โรคจิตบางอย่าง หรือในวัยชรา โรคสมองเสื่อมสามารถทำให้คนที่เคยรักเราสุดชีวิตจำหน้าเราไม่ได้เลย

ธรรมชาติแห่งความเปลี่ยนแปลงตามเหตุและปัจจัยไม่สนใจความต้องการของใครเลย เราจะบวงสรวง บนบาน อ้อนวอน สวดมนต์อย่างไรก็ตาม ความพลัดพรากคงมีเหมือนเติม จะเร็วหรือช้าเท่านั้นเอง ใครอุตริไปขอให้สิ่งคักดิ์สิทธิ์จงดลบันดาลให้พระอาทิตย์ไม่ตกดินวันนี้เลย เราคงจะนึกขำ แต่ที่จริงการไม่ยอมรับความจริงแห่งความตายก็ไม่ต่างกันเท่าไรกับความปรารถนาเช่นนั้น

คนรักกันมักจะชอบยืนยันอยู่บ่อยๆ ว่ารัก รัก จริง ตอนหนุ่มสาวคงจะต้องบอกทุกครั้งที่พบ ในยุคโทรศัพท์มือถืออาจพูดได้หรือส่งข้อความได้วันละหลายครั้ง จนกลายเป็นกิจวัตรประจำวันไปเลย ยิ่งกว่านั้น คือภาวะภาษาเฟ้อ เช่น สัญญาด้วยว่าจะรัก ตลอดกาลนาน หรือทั้งๆ ที่ไม่เคยนั่งสมาธิจนสงบ ระลึกชาติได้ ยังอวดอุตตริมนุสสธรรมว่าเคยรักกัน หลายภพหลายชาติแล้วแน่ๆ

คนพูดอย่างนี้น่าจะ หมายความว่าในขณะที่พูดนั้น (หากไม่พูดเท็จ) เขา รักมาก และในขณะนั้นเขามั่นใจว่าเขาจะรู้สึกอย่าง นั้นตลอดไป แต่ใครจะรับรองความรู้สึกของตัวเองได้ ขนาดนั้น เพราะความเข้มข้นของความรู้สึกไม่ใช่ เครื่องพิสูจน์ความทนทานของมัน

ที่น่าสังเกตคือสิ่งที่มักจะอยู่เบื้องหลังการ ยืนยันว่ารัก กล่าวคือความห่วงเพราะถ้าลึกๆ ไม่ กลัวว่าวันใดวันหนึ่งความรักจะไม่มี จะต้องยืนยัน บ่อยๆ ทำไม ถ้าความรักเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเองโดยไม่ตั้งใจเหมือนตกหลุม แล้วเราจะไว้ใจได้อย่างไรว่าในชาตินี้หลุมของเราหลุมของเขาจะมีอันเดียว

อย่างไรก็ตาม พอพูดครั้งหนึ่งแล้วว่ารัก ตั้งแต่นั้นเป็นต้นไป ต้องพูดเป็นระยะๆ อยู่เรื่อยๆ เพื่อให้เขาสบายใจว่า ยังรักเหมือนเติม ถ้าเคยพูดบ่อยๆ แล้วพูดน้อยลง คู่รักมีโอกาสน้อยใจ หรือระแวงว่าเปลี่ยนไป มันเป็น ความกดดันอย่างหนึ่ง

นอกจากนี้ ถ้าสมมุติเขาบอกว่า ฉันรักเธอดีไหม อาจจะดีก็ได้ แต่ถ้าเราไม่รักผู้ที่รักเราก็อาจรู้สึกไม่ดีนัก เรียนด้วยกันทำงานด้วยกันอาจจะอึดอัดใจพอสมควร บางทีเกรงใจ ไม่กล้า ปฏิเสธ (หรือหวังสิทธิของการเป็นคู่รักบางอย่าง) ก็โกหกว่ารักเธอเหมือนกัน จากนั้นถอนคำพูดยาก ไม่ตกหลุมก็จริง แต่ติดตะรางแทน บางคนไม่ถึงกับโกหกจริงๆ จังๆ เพียงแต่ไม่รู้ว่าความรู้สึกที่มีอยู่นี่ มันคืออะไร มันมีชื่ออะไร สับสน เรียกว่ารักไว้ก่อนก็แล้วกัน อาจจะใช่ก็ได้

ความรู้สึกที่เราเรียกง่ายๆ ว่ารักนั้นมักมีสิ่ง อื่นเจือปนอยู่เสมอ ซึ่งแนบสนิทอยู่กับใจจนเรามัก หลงเชื่อว่าเป็นส่วนหนึ่งหรืออาการของความรักที เดียว เช่น ความวิตกกังวล เป็นต้น

ซึ่งมักถูกมองว่า เป็นเครื่องพิสูจน์ว่ารักจริง ไม่กังวลคือไม่รัก ดึกแล้ว ลูกยังไม่กลับบ้าน โทรเข้ามือถือเขาก็ไม่ติด คุณแม่ก็ ทุกข์แล้ว ดูนาฬิกาเป็นระยะๆ ถี่ขึ้นๆ คิดปรุงแต่ง ต่างๆ นานา จนเครียดเต็มที่ มีคุณแม่สักกี่คนที่ถือว่าความกังวลนั้นเป็นสิ่งเศร้าหมองที่ต้องปล่อยวาง คงน้อย ส่วนมากมีใครปลอบใจและขอให้ทำใจ เย็นๆ ไม่ต้องกังวล ก็ไม่พิง พูดแต่ว่า อดไม่ได้ อดไม่ได้

ความวิตกกังวลเป็นผลพลอยได้ของความ ผูกพันในโลกที่ไม่มีอะไรแน่นอน และมีสิ่งอันตราย มากมาย จะถือว่าเป็นค่าธรรมเนียมของความรัก ก็คงไม่ผิด ความผูกพันทำให้เรารับความทุกข์ของ อีกคนหนึ่งเหมือนเป็นของเรา ความไม่สบายกาย หรือไม่สบายใจของคนที่เรารักจึงทรมานใจเรา บางทีเราอาจจะทุกข์มากกว่าคนป่วยด้วยซ้ำไป

อย่างไรก็แล้วแต่ ทางพุทธธรรมสอนตรงๆ ว่า ทุกข์เพราะคิดผิด ไม่ใช่อย่างอื่น สิ่งท้าทายคือรักอย่างไรมีทุกข์น้อยที่สุด การมีสติควบคุมความคิด ไม่ให้ปรุงแต่งจนเลยเถิดเป็นศิลปะชีวิตที่จะบรรเทา ความทุกข์ประเภทนี้ได้มาก ทำให้รู้จักแยกความเป็นห่วงธรรมดาจากความฟุ้งซ่าน ความตึงเครียด เราต้องรู้จักรับผิดชอบสุขภาพจิตของตน เพราะไม่มีใครจะทำให้เราได้

ความวิตกกังวลเกินเหตุตัดได้ด้วยพลังสติและ สมาธิ ความเป็นห่วงที่สมเหตุสมผล ลดได้ด้วยการสอนตัวเองว่าห่วงหรือไม่ห่วง อะไรจะเกิดก็จะเกิด แล้วแต่บุญแต่กรรม เกอ เซอรา เซอรา! (ภาษาฝรั่งเศส หมายถึง อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด)

จบหลักรักตอนที่ 4

ภาพงานอาจริยบูชา หลวงปู่ชา วัดหนองป่าพง อุบลราชธานี ปี 2560 โดยคุณกตภัณ แก้วสง่า

หลักรัก ตอนที่ 4

ที่มา