หลักรัก ตอนที่ ๖ - พระอาจารย์ชยสาโร


ความต้องการมีส่วนในการกำหนด ประสบการณ์ หรือพูดง่ายๆ เรามักจะเห็นสิ่งที่เรา อยากเห็น เช่น สมมุติว่าเรามีเกณฑ์ว่าคนน่ารัก คน ที่เราจะรักได้มีคุณสมบัติอย่างนี้ๆ แต่เมื่อหลงรักใครสักคนแล้ว ปรากฏว่าเขามีข้อดีเหล่านี้ไม่ครบ ทีนี้หลายคนหลอกตัวเองว่าเขามีครบ ด้วยการเอา อุดมการณ์อยู่ในใจเขาเองทาทับคนที่เขารัก จน กระทั่งเห็นสิ่งที่อยากเห็นในตัวเขา ในบางรายกลาย เป็นว่าผู้เป็นที่รักไม่ใช่คนนั้นจริง ๆ เป็นแค่ภาพพจน์ ของคู่ครองในฝัน หรืออย่างน้อยเชื่อว่าคนที่รัก ลึกๆเขาเป็นอย่างที่เราอยากให้เขาเป็นโดยไม่ค่อยรู้ตัว และเรานี่แหล่ะเหมาะที่สุดที่จะดึงสิ่งดี ๆ ออกมาได้ ด้วยพลังความรัก

การมองคนที่เรารักด้วยความคาดหวังบาง อย่างเป็นเหตุให้ผิดหวังได้ง่าย เมื่อมีเรื่องไม่พอใจ กันเกิดขึ้น ความเสียใจและขัดข้องใจว่าเขาไม่เป็น อย่างที่เขาควรจะเป็น (คืออย่างที่เราต้องการให้เขา เป็น) ความขมขื่นก็ทวีขึ้น พระพุทธเจ้าชี้ให้เราเห็น ว่าทุกข์เพราะตัณหาความอยาก

อย่างไรก็ตาม การรักใครไม่น่าจะต้อง

หมายความว่ามีหน้าที่หลับหูหลับตาต่อข้อบกพร่อง ของเขา และเข้าข้างเขาในทุกๆ เรื่อง เพราะจะขาด ความเป็นเพื่อนที่ดี แต่จะช่วยใครได้ต้องใจเย็น ไม่ ท้อแท้ ด้วยความเคารพและยอมรับภาวะปัจจุบันไว้ ก่อน

การสำคัญมั่นหมายในความรักมากเกินไปมี โทษหลายอย่าง ในขั้นรุนแรงการเทิดทูนความรัก อาจนำไปสู่การเบียดเบียนหรือฆาตกรรมได้ เช่น ฆ่า แฟนที่ทิ้งไป หรือฆ่าแฟนใหม่ของแฟนเก่า หรือฆ่า ทั้งสอง หรือฆ่าตัวเอง โศกนาฏกรรมเกิดขึ้นบ่อย เพราะการบ้าอารมณ์รัก หลงเชื่อว่าความรักคือตัว ชีวิต ความรักหายไปเหมือนชีวิตไร้ค่า ไม่มีความ หมายอีกแล้ว คนที่คิดผิดอย่างนี้ เรียกว่ามี “LQ” Love Intelligence ต่ำมาก (ศัพท์นี้ไม่อยู่ใน พจนานุกรม) อยากจะฆ่าอยากจะทำร้ายอะไรก็ได้ เว้นแต่ความงมงายในอารมณ์ของตัวเอง

สิ่งที่น่าสมเพชอีกข้อหนึ่งคือ ผู้หญิงจำนวน มากทั่วโลกถูก คู่รัก ตบตีเป็นประจำ (สถิติตัวอย่าง การแจ้งตำรวจอังกฤษเรื่องความรุนแรงในบ้านมีถึง ปีละห้าแสนครั้ง) ผู้หญิงตัวบอบช้ำ หรือแขนหัก

กระดูกซี่โครงหัก ฯลฯ เข้าไปรับการรักษาที่ โรงพยาบาลทุกวัน ตายก็มีไม่น้อย แล้วทำไมผู้หญิง ที่โดนผู้ชายกระทำทารุณจำนวนมากจึงยอมกลับไป อยู่กับแฟนดุเดือดประเภทนี้ต่อไป บางรายทนเพราะ ลูก บางรายเพราะกลัว บางรายเพราะไม่มีที่ไป แต่ที่ บ่อยที่สุดก็เพราะรัก แฟนเขาสร่างเมา หรือหาย โมโหแล้วมักยืนยันน้ำตาไหลว่ารัก แล้วขอโทษ ขอ เป็นครั้งสุดท้าย และผู้หญิงเองยอมรับว่ายังรักเขา อยู่ จึงยอมด้วยความหวังว่า เขาจะดีขึ้น แต่ ครอบครัวอย่างนี้มักมีครั้งสุดท้ายไป เป็นระยะ ๆ เรื่อยๆ เพราะความเสียใจของผู้ชอบรังแกมักจะ ละลายไปกับน้ำเมาได้ง่าย ที่จริงผู้ชายที่ชอบตีลูกตี เมียก็น่าสงสารเหมือนกัน เพราะตายแล้วคงยากที่จะ ได้กลับ มา เกิดเป็นมนุษย์อีกต่อไป

ตอนรักกันใหม่ๆ คนที่เรารักดูดีทุกอย่างแม้แต่ข้อบกพร่องที่เราเห็นได้ก็ดูน่าเอ็นดูไปหมด หรืออย่างมากดูเป็นมลทินเล็กๆ ที่คนรักจริงไม่ควร ใส่ใจ ข้อแตกต่างกันไม่ว่าจะเป็นในระดับปกติ กรรม เรื่องนิสัยใจคอ ค่านิยม ความคิดเห็น ความเชื่อถือที่ไม่ตรงกันก็ตาม เรานึกว่าไม่เป็นไร อย่างไรๆ เรารัก กัน เรื่องอื่นคงค่อยๆ เข้าล็อกกันเอง แต่แต่งงาน แล้วสักระยะหนึ่ง สิ่งน่าระคายเคืองที่เคยซุ่มอยู่ด้าน หลังอย่างเงียบ ๆ มักย้ายตำแหน่งมาอยู่ในที่โดดเด่น ขึ้น หรือกลางเวทีทีเดียว คู่ไหนมีปัญญารู้จักปล่อย วาง เสียสละความคิดเห็น ปรับตัวเข้าหากันอย่าง ประนีประนอมอาจจะผ่านพ้นไปได้ แต่หลายๆ คู่เริ่ม ได้บทเรียนอันขมขื่นว่า ความรักเป็นวัคซีนป้องกัน ทุกข์ที่ไว้วางใจไม่ได้ คุมทุกข์ได้ไม่หมด เมื่อทิฐิมานะของทั้งสองฝ่ายชนกัน คำว่า ไม่ใช่ ไม่ได้ ไม่ยอม ไม่มีทาง ไม่! ดังขึ้นมาเรื่อย รักกันไหม รักอยู่แต่ ...

พระพุทธองค์ตรัสถึงเรื่อง ศีลเสมอกัน ทิฐิ (ความเชื่อถือ ค่านิยม) เสมอกัน ว่าเป็นเงื่อนไขหลัก ของการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข การพิจารณาให้ดี ก่อนตกลงร่วมชีวิตกับใครจึงสำคัญ ดีกว่าคิดได้หลัง แต่งงานไปแล้ว อาจจะทำใจได้ แต่เรื่องการทำใจนั้น โดยเฉพาะในเรื่องของศีลธรรม ขออย่าลืมว่ามีลูกแล้ว ถ้าลูกติดนิสัยไม่ดีของแฟน แล้วอาจจะต้อง ทำใจ เป็นระยะเวลายาวนาน

เมื่อใครตื่นขึ้นมาจากการหลงอารมณ์ รู้สึกตัว ว่าเป็นทุกข์ และกำลังทำให้คนอื่นเป็นทุกข์ทั้ง ๆ ที่รัก พุทธธรรมจึงให้ข้อคิดว่า ความรักอย่างเดียวไม่ พอที่จะนำความสุขที่เที่ยงแท้ถาวรมาสู่ชีวิตเราได้

ความรักอาจเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตฆราวาสที่อบอุ่น มั่นคงได้ แต่ต้องตั้งไว้บนฐานแห่งศีล ประกอบด้วย คุณธรรม และต้องกำกับด้วยปัญญา เริ่มด้วยการ พิจารณาหลักธรรมว่า สิ่งทั้งหลายทั้งปวงไม่เที่ยง ไม่แน่นอน สิ่งทั้งหลายที่ไม่เที่ยงย่อมมีความไม่สมบูรณ์ทนตัวเป็นธรรมดา เมื่อเราต้องการให้สิ่งที่ไม่เที่ยงมีความเที่ยง และสิ่งไม่สมบูรณ์ให้มีความสมบูรณ์ ก็ต้องทุกข์แน่ๆ จิตใจเรามีกิเลส กิเลสนั่น แหล่ะคอยบ่อนทำลายความสุขในชีวิต สองคนรักกัน เท่าไรก็ตาม ถ้าไม่อบรมกาย วาจา ใจ ตามหลักคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ก็จะทุกข์ได้ ทุกข์เป็นตลอดไป

เมื่อสัมมาทิฐิเกิดจากการศึกษาเรื่องคุณและ โทษของความรักอย่างดีแล้ว ถ้ามีลูกต้องพยายาม ปลูกฝังความฉลาดในใจเขาด้วย ก่อนติดเชื้อจาก สิ่งแวดล้อม ยกตัวอย่างเรื่องวันวาเลนไทน์

วันวาเลนไทน์เป็นอีกส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมพาณิชย์ที่ ค่อยๆ กลืนวัฒนธรรมดั้งเดิม งานวันวาเลนไทน์นี้ชวนให้เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างความรัก กาม และการบริโภคนิยมอย่างไร ก็ขอลองพิจารณาดูเอาเอง

เด็กผู้ชายอายุ ๗-๘ ขวบลงจากรถ ถือดอกไม้ สีแดงที่ห่อไว้อย่างสวยงามเดินเข้าไปในโรงเรียน วัน นี้เป็นวันวาเลนไทน์ เขากำลังเอาของขวัญไปให้ แฟน ภาพนี้น่าเอ็นดูหรือน่าเป็นห่วง สำหรับอาตมา แล้ว เป็นภาพที่บอกว่า พ่อแม่ที่ซื้อดอกไม้ฉลอง นวาเลนไทน์ให้ลูก ได้รดนํ้าให้แก่เมล็ดพันธ์แห่งความสับสนในจิตใจของลูกตั้งแต่เช้า

หลักรัก ตอนที่ ๖

ที่มา